
ประธานสโมสรของสุภาพบุรุษตราโล่ ยืนยันว่าตอนนี้ได้ส่งเอกสารเรื่องคลับไลเซนซิ่งให้กับทีพีแอลเรียบร้อยแล้ว พร้อมชี้แจงถึงปัญหาต่างๆ และคาดว่าทุกอย่างน่าจะผ่านไปได้ด้วย
สโบเบ็ตคาสิโน พล.ต.อ. วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานสโมสร เพื่อนตำรวจ ได้เดินทางมาสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อยื่นหนังสือให้กับทางบริษัท ไทย พรีเมียร์ลีก ตามกำหนดเวลาที่ให้เดดไลน์เกี่ยวกับการส่งเอกสารเรื่องคลับ ไลเซนซิ่ง โดยยืนยันว่าตอนนี้เอกสารครบหมดแล้ว และได้ชี้แจงบางปัญหาที่ไม่สามารถกระทำได้
ก่อนหน้านี้ ทัพสุภาพบุรุษตราโล่ส่อแววโดนตัดสิทธิ์หลังมีปัญหาเรื่องคลับ ไลเซนซิ่งในข้อของการเงิน แต่สุดท้ายทางทีพีแอลก็ยืดเวลาออกมาจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ โดยมีเดดไลน์อยู่ในเวลา 1
ทาง บิ๊กย้อยยอมรับว่าตอนนีได้นำเอกสารทั้งหมดมายื่นให้กับทีพีแอลเรียบร้อยแล้ว พร้อมชี้แจงในส่วนที่ขาดตกบกพร้อมไปทั้งเรื่องการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 50 ล้านบาทที่ทีมไม่สามารถหาได้ภายในเวลาสามวัน
“วันนี้มายื่นเอกสาร คลับ ไลเซนซิ่ง ครบทั้งหมด แล้วนะครับ ในเรื่องของเอกสารที่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ ของ ทีพีแอล กับ ของคลับ ไลเซนซิ่ง เราดำเนินการ ได้ ยกเว้นอย่างเดียวที่เป็นหลักเกณฑ์เพิ่มเติมที่ให้เราหาหลักทรัพย์ค้ำประกัน 50 ล้านบาท อันนี้ก็ได้รับคำชี้แจ้งเนื่องจากทีมเราประสบปัญหา เพื่อแสดงความมั่นคงของทีม ทีพีแอลจำเป็นต้องให้เราวางหลักทรัพย์ ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหา ซึ่งเราได้พูดคุยกับผู้สนับสนุนทีม เขาบอกว่าจนปัญญาเพราะมีแค่เวลา 3 วัน วันนี้เราก็มาขี้แจงขอยกเว้น เพราะมันไม่ปรากฏในหลักเกณฑ์ เพียงแต่ว่าทีพีแอลเป็นห่วง เราก็เข้าใจ แต่เราหาไม่ได้จริงๆ” บิ๊กย้อย กล่าวเริ่ม
“ทีพีแอล คงพิจารณาเราก็รอฟัง คือตัวแบงค์การันตี 20 ล้าน ทางผู้ร่วมทุนไม่มีปัญหาสามารถจัดการได้เลย แต่การต้องหาอีก 50 ล้านเพื่อเป็นหลักทรัพย์ มันคนละส่วนกัน 20 ล้านนี่คือจะกำหนดในระเบียบต่อไป คือต่อไปนี้ทุกทีมในไทยลีก จะต้องมีแบงค์การันตี แต่ทางทีพีแอล บอกว่าทยอยเอามาได้ เพราะทางทีพีแอลถือเงินนี้ไว้แล้ว ที่เป็นค่าสนับสนุนซึ่งเขาจะไม่จ่ายหากไม่มีแบงค์การันตี”
“แต่เนื่องจากทีมเรามีปัญหาเขาเลยขอให้เราทำเลย แต่ขออีก 50 ล้านบาท ตรงนี้เรายอมรับ ตอนนี้ก็รอคำตัดสิน ผมสงสารเด็กความจริงผมไม่ได้เกี่ยวข้องมานานแล้ว เมื่อทีมประสบปัญหา เด็กไม่มีที่พึ่งเขาคิดถึงเรา เราสงสารเลยเข้ามาช่วย”
นอกจากนี้ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังกล่าวเสริมถึงเรื่องการค้างค่าเหนื่อยนักเตะในฤดูกาลที่ผ่านมาอีกว่า “ตอนนี้เราก็ยื่นไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องปัญหาหนี้สิน เราก็ชี้แจง นักเตะก็ยอมหมด ประนอมหนี้ได้หมด ตอนนี้เราค้างค่าเหนื่อย 11 ล้าน นายทุนบอกพร้อมจ่าย เขามีเงินในมือ แต่เขาตั้งคำถามว่า ถ้าจ่ายเด็กไปแล้ว และบอกว่าเราไม่ได้แข่งต่อ ผลจะเป็นยังไงจะขอเงินคืนได้ไหม มันคือเงื่อนไข ว่าถ้าเราไม่ได้อยู่ในไทยลีกเขาก็จะไม่เป็นสปอนเซอร์ให้เรา ให้ผมแสดงความมั่นใจว่าเราต้องได้เล่น เขาถึงจะจ่าย แต่ผมก็แสดงความมั่นใจไม่ได้ แต่เราก็ต้องสู้ต่อไปจนถึงที่สุด เพื่อช่วยเหลือเด็กทุกคน”